
จากกรณี น้องชมพู่ เด็กหญิงอายุ 3 ขวบ ที่หายตัวไปจากบ้านพักใน อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร กว่า 4 วัน และพบเป็นศพสภาพเปลือยในป่าห่างจากบ้านพักหลายกิโลเมตร เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ทางพนักงานสอบสวนได้มีการส่งร่างของน้องชมพู่ มาชันสูตรหาสาเหตุการตาย ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์อุบลราชธานี ต่อมาผลการชันสูตรรอบ 2 ว่า ผลเป็นบวก มีร่องรอยถูกทำร้ายร่างกายและล่วงละเมิดทางเพศ แต่ตรงไหนยังไม่ทราบ
ล่าสุด แพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ เปิดเผยกับ“ทีมข่าวห้องสืบสวน” ว่า พยานหลักฐานบางอย่างที่สำคัญในศพอาจเสื่อมสลายไปแล้ว ซึ่งกรณีของน้องชมพู่นั้น ตามมาตรฐานสากลต้องเป็นแพทย์นิติเวช เดินทางไปที่้เกิดเหตุ ทำหน้าที่ตรวจพิสูจน์ แต่กฎหมายไทยระบุเพียงว่า ให้ตำรวจกับแพทย์ ไม่เน้นว่าต้องเป็นหมอนิติเวช
ทั้งนี้ กระบวนการรวบรวมพยานหลักฐานลักษณะนี้ ต้องประกอบด้วยหลักฐานในที่เกิดเหตุ หลักฐานเกี่ยวกับศพ ณ จุดเกิดเหตุ ซึ่งบางครั้งหลักฐานสามารถพบได้ในที่เกิดเหตุ และการผ่าศพต้องพิจารณาว่า นานเท่าไร เมื่อเคลื่อนศพไปโรงพยาบาล ก็ต้องดูว่าขั้นตอนการปฏิบัติเป็นอย่างไร

กรณีศพของน้องชมพู่ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะยังมีพยานหลักฐานเหลืออยู่ในตัวศพหรือไม่ แต่จากการติดตามศพยังไม่ได้เปลี่ยนสภาพในที่เกิดเหตุ การรวบรวมหลักฐานอาจจะเป็นตัวช่วยเพราะหลายกรณีหลักฐานไม่ได้อยู่ที่ศพอย่างเดียว
EmoticonEmoticon