กรณีครอบครัวหนึ่งเดินทางกลับบ้านที่ จ.สุรินทร์ เพื่อมางานแต่งญาติ แต่หลังจากเสร็จงานแล้ว ได้มีการไปพูดคุยกับพี่สาว แล้วโดนหลานชายตัวเองบุกจ้วงแทงอาการสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อนางแสงจันทร์ เพ็งสุข อายุ 50 ปี (ผู้เสียชีวิต) เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ของวันที่ 14 พ.ย.63 ที่ผ่านมา
การเดินทางมาจ.สุรินทร์ในครั้งนี้ ก็คือมาร่วมงานมงคลสมรสของหลานสาวฝ่ายภรรยา โดยมีนางแสงจันทร์ ลูกชายคนกลางและลูกสาวคนเล็กและตน ซึ่งเหตุการณ์ในงานแต่ง ก็ฟ้อนรำสนุกสนาน จนกระทั่งงานเลิกนางแสงจันทร์ ก็ได้มีการอยู่ช่วยเก็บข้าวของ และทำความสะอาดในงาน จนเสร็จประมาณ 14.00น.
จากนั้นนางแสงจันทร์ ก็ชักชวนตนไปที่บ้านของพี่สาว (จุดเกิดเหตุ) เวลาประมาณ 15.00 น. ซึ่งก็มีการไปนั่งพูดคุยบริเวณหลังบ้าน โดยเก้าอี้ที่อยู่หลังบ้าน มี 2 ตัว ซึ่งนายสอ้วน (พ่อผู้ก่อเหตุ) ก็ได้มีการเดินไปบอกนายศรัญญู (ผู้ก่อเหตุ) ให้หยิบเก้าอี้ให้ตนอีกตัว วินาทีที่ยื่นเก้าอี้ให้นายสอ้วน ตนเห็นสายตาของนายศรัญญู มองตาขวาง และทำเงียบแปลก ๆ ไม่ยกมือไหว้สวัสดีทักทายกัน ตนก็ไม่เอะใจอะไร
จากนั้นตนก็นั่งกินกาแฟ ตนนั่งอยู่ข้าง ๆ กับนายสอ้วน ส่วนนางแสงจันทร์ นั่งอยู่ตรงข้ามตน เมื่อคุยไปสักพัก นายศรัญญู ก็ถือมีดวิ่งเข้ามาแทงภรรยาของตนต่อหน้าต่อตา ตนจึงคุกเข่าลงไปประคองร่างของนางแสงจันทร์ไว้ ซึ่งขณะนั้นเลือดพุ่งออกเป็นจำนวนมาก ตนตกใจจึงได้ตะโกนร้องเรียกให้ลูกชายที่มาด้วย รีบเข้ามาช่วย
จากนั้นก็มีการนำตัวส่ง รพ.สนม จ.สุรินทร์ แต่นางแสงจันทร์เสียเลือดมาก ซึ่งทีมแพทย์ได้มีการปั๊มหัวใจนางแสงจันทร์แล้ว แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ วินาทีที่แพทย์เดินมาบอกว่า นางแสงจันทร์เสียชีวิต ตนถึงกับเข่าอ่อนล้มทั้งยืน ส่วนตัวคาดว่าสาเหตุที่ลงมือ อาจจะเป็นเพราะป่วยด้วยและการที่นายสอ้วน ไปขอเก้าอี้อาจจะไปขัดจังหวะนายศรัญญู กำลังเล่นเกมด้วยเลยทำให้เกิดอารมณ์สวิงโมโหขณะนั้น
ส่วนตัวและนางแสงจันทร์ไม่เคยมีปัญหา กับนายศรัญญู ซึ่งครั้งสมัยนายศรัญญูยังเด็ก ๆ เคยมาบวชสามเณรที่ กทม. ตนและครอบครัวก็ให้ที่พักอยู่อาศัย และดูแลเป็นอย่างดี ตนไม่คิดเลยว่านายศรัญญู จะลงมือทำเช่นนี้ จากนี้ตนก็จะคิดถึงนางแสงจันทร์มาก ๆ เพราะผ่านทุกข์ผ่านสุขมาด้วยกัน แต่ก็ต้องเข้มแข็งและสู้ชีวิตเพื่อลูกอีก 3 คน สุดท้ายนี้ตนอยากบอกนางแสงจันทร์ว่า รักเขามาก รักแบบไม่สามารถรักใครได้อีก จะรักไปตลอดชาติเลย
สำหรับงานณาปนกิจศพ จะเริ่มมีการสวดศพวันนี้ (15พ.ย.63) และจะประชุมเพลิงวันที่ 18 พ.ย.63 ที่วัดแจ้งหนองบัวแดง ต.โพนโก อ.สนม จ.สุรินทร์
ด้านนางรุ้งตะวัน ดวงวิเศษ อายุ 51 ปี แม่ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ตนมีความผูกพันกับนางแสงจันทร์ ที่ค่อนข้างสนิทสนมกัน เพราะอายุห่างกันแค่ 1 ปี เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เล็ก จนกระทั่งแต่ละฝั่งมีครอบครัวเป็นของตัวเอง แต่ก็ยังมีการติดต่อกันอยู่เป็นระยะ ๆ เนื่องจากนางแสงจันทร์ ไปสร้างครอบครัวอยู่ที่ กทม. สภาพจิตใจในตอนนี้ยังคงเสียใจกับการจากไปอยากกะทันหันของนางแสงจันทร์ และยังทำใจลำบาก เนื่องจากลูกชายของตนเป็นคนลงมือ
ส่วนตนอาศัยอยู่กับลูกสาวและนายศรัญญู (ผู้ก่อเหตุ) ซึ่งนายสอ้วน ดวงวิเศษ (สามี) ไปทำงานอยู่ที่กทม. ตนจึงมีหน้าที่ดูแลลูก และทำนาข้าวอยู่ที่จ.สุรินทร์ โดยนายศรัญญู เป็นคนเฮฮาเวลาปกติ แต่เวลาคลั่งจะเก็บตัวเงียบ ไม่พูดคุยกับใคร และชอบถือมีด ปาขวดเบียร์ใส่พื้นบ้าน กำแพงบ้าน ตนจึงต้องซ่อนมีดทำครัวไว้ เพราะกลัวว่าจะไปทำร้ายคนอื่น ซึ่งนายศรัญญู เคยทำร้ายร่างกายทุบตีตน 1 ครั้ง ด้วยสาเหตุจากการเมายา เนื่องจากนายศรัญญู เคยติดยาเสพติดในปี 58 และได้ทำการบำบัดรักษาตัวในปี 59 จากนั้นในปี 60 ก็กลับมารักษาตัวอยู่ที่บ้าน
ทั้งนี้ตนยืนยันว่า มีการให้กินยาทุกมื้อไม่เคยขาด แต่การรักษาตัวที่นานกว่า 5 ปี ทางแพทย์ก็ได้มีการลดจำนวนยาลง และฤทธิ์ยาที่เบาลง ตามอาการของนายศรัญญู
วันเกิดเหตุ (14พ.ย.63) ตนไม่ได้อยู่ในบ้าน เมื่อกลับมาถึงบ้านเวลาประมาณ 15.00 น. ก็ได้ยินเสียงคนร้องโวยวายให้ช่วย วินาทีนั้นก็เลยรีบวิ่งเข้ามาช่วยดึงนายศรัญญู เข้าบ้านมาแล้วรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนสาเหตุตนคาดว่าน่าจะเกิดอาการคลั่ง แล้วยาที่หมอให้ก็มีการลดขนาดและฤทธิ์ยาที่อ่อนลง ส่วนมีดที่นายศรัญญูใช้ลงมือนั้น ตนนึกขึ้นได้ว่า เวลาประมาณ 04.00 น. ของวันที่ 14 พ.ย.63 ลืมเก็บมีดหลังทำกับข้าว ตนคาดว่านายศรัญญู น่าจะเอามีดไปซ่อนเก็บไว้
หลังจากนี้ให้เป็นหน้าที่ตำรวจ ว่าจะดำเนินคดีอย่างไร หรือจะเอาตัวนายศรัญญูไปบำบัดที่ไหนก็แล้วแต่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพราะตนก็กลัวว่าถ้ารักษาไม่หายดี แล้วกลับมาอยู่บ้าน รายต่อไปอาจจะเป็นคนในครอบครัว
ด้านน.ส.ขวัญจิรา สืบทอง อายุ 26 ปี และนายปราโมทย์ สงวงวงศ์ อายุ 40 ปี คู่บ่าวสาว เปิดเผยว่า นางแสงจันทร์ มีศักดิ์เป็นน้าของตน วันเกิดเหตุน้าก็มาร่วมงานมงคล โดยมีการผูกข้อมือให้กับตน ซึ่งบรรยากาศในงานเลี้ยงก็สังสรรค์ ถือเป็นอีกหนึ่งวันที่มีการรวมญาติที่ไม่ได้เจอกันนาน ก็ต่างคนต่างมีความสุขในงานตามปกติ ไม่ได้มีลางสังหรณ์อะไร ซึ่งนายศรัญญู ไม่ได้ไปร่วมงานแต่งของตน
ช่วงเวลาในงานแต่งงานสำหรับผู้หญิงทุกคน คือ ช่วงเวลาแห่งความสุข จนกระทั่งจบงาน มีญาติโทรมาบอกว่า นางแสงจันทร์ถูกนายศรัญญู ใช้มีดแทงจนเสียชีวิต ตนก็รู้สึกตกใจ ตั้งหลักไม่ถูก ถึงกับเกิดอาการขาอ่อน ส่วนตัวไม่คิดว่างานของตนเป็นสาเหตุให้นางแสงจันทร์ตาย ตนเชื่อว่าฟ้าลิขิตกำหนดโชคชะตาให้เป็นแบบนี้
ส่วนจะมองว่าจะเป็นลางร้ายสำหรับชีวิตคู่หรือไม่นั้น ตนมองว่าการแต่งงานของตนผ่านมาด้วยดีแล้ว ซึ่งตนและสามีต่างก็ไม่มีใครคาดคิดว่า จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นในงานมงคล
ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว
EmoticonEmoticon